วิธีการชักสลัมพ์ (Slump Test) มีดังนี้
- เตรียมอุปกรณ์ : ใช้แบบทรงกรวยตัดยอด (Slump Cone) และเหล็กกระทุ้งคอนกรีต (Tamping Rod)
- ตักคอนกรีต : ตักคอนกรีตใส่แบบทรงกรวยเป็น 3 ชั้น โดยให้แต่ละชั้นมีความสูงเท่าๆ กัน
- กระทุ้งคอนกรีต : ใช้เหล็กกระทุ้งคอนกรีตกระทุ้งแต่ละชั้นให้ทั่ว เพื่อไล่อากาศ
- ยกแบบ : ยกแบบทรงกรวยขึ้นอย่างช้าๆ และระวังอย่าให้คอนกรีตเสียรูป
- วัดค่า : วัดระยะที่คอนกรีตยุบตัวลง (Slump) เทียบกับความสูงของแบบทรงกรวย
ทำไมต้องชักสลัมพ์?
- ตรวจสอบความสม่ำเสมอของคอนกรีต : การชักสลัมพ์ช่วยให้ทราบว่าคอนกรีตที่ผสมมามีความสม่ำเสมอหรือไม่ หากค่าสลัมพ์ไม่เป็นไปตามที่กำหนด อาจมีปัญหาในการผสม เช่น ปริมาณน้ำไม่เหมาะสม หรือส่วนผสมไม่ถูกต้อง
- ควบคุมคุณภาพคอนกรีต : การชักสลัมพ์ช่วยควบคุมคุณภาพของคอนกรีตสดก่อนนำไปใช้งานจริง ช่วยให้มั่นใจได้ว่าคอนกรีตมีความข้นเหลวที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
- ตรวจสอบความสามารถในการเท : ค่าสลัมพ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คอนกรีตสามารถเทลงในแบบหล่อได้ง่ายและทั่วถึง
- ประเมินกำลังของคอนกรีต : แม้ว่าค่าสลัมพ์จะไม่ใช่ตัววัดกำลังของคอนกรีตโดยตรง แต่ค่าสลัมพ์ที่เหมาะสมจะส่งผลต่อกำลังของคอนกรีตที่แข็งตัวแล้ว
- ประเมินความสามารถในการทำงาน : การทดสอบ Slump Test ช่วยประเมินความสามารถในการทำงาน (Workability) ของคอนกรีต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเทคอนกรีตลงในแบบหล่อ การจัดเรียงตัวของคอนกรีตในแบบ และการบดอัดคอนกรีต
ค่าสลัมพ์ที่เหมาะสมสำหรับงานก่อสร้าง
- งานพื้นถนน: 5.0 เซนติเมตร ± 2.5
- งานทั่วไป: 7.5 เซนติเมตร ± 2.5
- งานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง: อาจใช้ค่าสลัมพ์ต่ำ
- งานโครงสร้างที่ต้องการความสามารถในการเทสูง: อาจใช้ค่าสลัมพ์สูง